
เทคโนโลยีทางทหารของไทยในยุคปัจจุบัน มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น โดยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ 2 ชนิดที่มีความโดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก
2018
วันที่ 17 พฤษภาคม 2018 กองทัพอากาศของประเทศไทยเตรียมตัวต้อนรับเครื่องบิน ‘T-50TH’ จ.นครสวรรค์ จากบริษัท Korea Aerospace Industries ประเทศเกาหลีใต้ โดยกองทัพอากาศไทยมีความจำเป็นต้องซื้อ เพื่อซื้อเทคโนโลยียกระดับแสนยานุภาพให้ดีกว่าเดิม เนื่องจากเครื่องบินขับไล่ รุ่น L-39 ZA/ART ประจำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ซึ่งมีความล้าสมัยมาก
พร้อมกันนี้ทางกองทัพก็ได้ส่งนักบินจำนวน 6 คน เพื่อเข้าฝึกกับเครื่องบินรบ T-50 TH ภายใต้หลักสูตรครูการบิน จึงทำให้พร้อมขับเครื่องบินรบ T-50TH ทันทีเมื่อเข้าประจำการ สำหรับเครื่องบินรบ T-50TH นี้จัดเป็นตัวระดับ Top ของโลก เพราะประเทศมหาอำนาจยังไม่มีใช้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคสมัยของรัฐบาล คสช. รัฐบาลไทยได้เพิ่มงบประมาณอัดฉีดด้านการทหาร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพรวมทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มงบทางการทหารเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี
‘T-50 Golden Eagle’ คือ เครื่องบินความเร็วเหนือเสียง เป็นเครื่องบินรบที่ใช้ในการโจมตีเบา ของประเทศเกาหลีใต้ พัฒนาโดยบริษัท KAI ภายใต้ข้อตกลงกับบริษัท Lockheed Martin ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดย T-50 Golden Eagle เป็นเครื่องบินเหนือเสียงที่เป็นหนึ่งในเครื่องบินเพียงไม่กี่รุ่นในโลกเท่านั้นที่จะมีความสามารถนี้ การก่อสร้าง T-50 Golden Eagle เริ่มดำเนินเป็นครั้งแรกในปี 1990 จนกระทั่งขึ้นบินได้อย่างเป็นทางการในปี 2002 มีโครงสร้างส่วนใหญ่คล้ายกับ F -16 ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้
วันที่ 16 กรกฎาคม 2015 กองทัพไทยทำการซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน 3 ลำ ด้วยงบประมาณ 36,000 ล้านบาท โดยราคานี้รวมค่าระบบอาวุธ , เทคโนโลยีอันทันสมัย รวมถึงบริการหลังการขายด้วย
โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำในครั้งนี้ มีจุดประสงค์ เพื่อต้องการเสริมสร้างแสนยานุภาพ พัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารและดูแลน่านน้ำของประเทศไทย โดยมีชื่อว่ารุ่น ‘Yuan Class S-26T’ มีระวาง 2,600 ตัน ใช้เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมติดตั้งระบบ Air Independent Propulsion system ทำให้สามารถดำได้ยาวถึง 21 วัน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยี เนื่องจากเรือดำน้ำทั่วไป จะสามารถอยู่ใต้น้ำแค่ 7-10 วันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบต่อต้านเรือด้วย โดยจุดประสงค์หลักของการซื้อเรือดำน้ำนี้ คือ ไม่ได้เอามาสู้กับใคร หากแต่เอามาป้องกันเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นมากกว่า อีกทั้งยังใช้เฝ้าระวังภัยอันตรายข้ามประเทศ กรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ประเทศไทยไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่ก็ระวังไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด