ประธานาธิบดีรัสเซีย อวดอาวุธรุ่นใหม่ของรัสเซียแก่สายตาชาวโลก โดยทุกประเทศต้องหวั่นเกรง ต่ออาวุธอานุภาพสูง รุ่นล่าสุดของรัสเซียในครั้งนี้ รวมถึงการเผยโฉมจรวดนำวิถีรุ่นใหม่ ,โดรนใต้น้ำ รวมทั้งขีปนาวุธที่เดินทางได้เร็วกว่าเสียง !!
ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putinr ขนอาวุธอานุภาพสูงซึ่งใช้พลังงานนิวเคลียร์มาอวดชาวโลกและอวดให้บางประเทศรู้สึกร้อนๆหนาวๆ นอกจากนี้อาวุธรุ่นใหม่บางชนิดสามารถล่องหนจากการตรวจจับของรัฐบาลประเทศอื่นๆได้อีกด้วย โดยอาวุธรุ่นใหม่ของรัสเซียที่กล่าวมานี้ ได้แก่ จรวดนำวิถี , โดรนใต้น้ำ ซึ่งสร้างมาจากพลังงานนิวเคลียร์ ตบท้ายด้วยขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
Vladimir Putinr ออกมากล่าวคำปราศรัยประจำปีในวันพฤหัสบดี ณ กรุงมอสโกว่า ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางการทหารของรัสเซีย จะส่งผลให้รัสเซียก้าวเท้าสูงขึ้นจนกลายเป็นมหาอำนาจทางการทหารของโลก และแน่นอนว่า ประเทศไหนก็ตามที่แสดงตนว่าเป็นศัตรูกับรัสเซีย และประสบความล้มเหลวจากการควบคุมอำนาจทางการทหารของรัสเซีย ในตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ประเทศเหล่านั้น ต้องออกมายอมรับกับความเป็นจริงเสียใหม่ ผู้นำรัสเซียกล่าวอีกดว่า ด้วยกำลังของอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ของรัสเซียนี้ จะทำให้นานาประเทศหันมาฟังและใส่ใจในรัสเซียให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ ประธานาธิบดี Vladimir Putinr ไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่ก็เชื่อได้ว่า ประเทศนั้นหมายถึงสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศตะวันตกซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วย
ประธานาธิบดี Vladimir Putinr ยังบอกอีกด้วยว่า อาวุธรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ไม่มีกองทัพใดในโลกที่สามารถต้านทานได้ นอกจากนี้ทำให้ระบบป้องกันขีปนาวุธแห่ง NATO กลายเป็นอุปกรณ์ของเล่น
โดยผู้นำรัสเซียระบุอีกว่า จรวดนำวิถีพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งรัสเซียเองทำการทดสอบอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วนั้น มีพิสัยทำการไม่จำกัด พูดง่ายๆก็คือสามารถโจมตีบนจุดใดก็ได้บนโลกตามต้องการ อีกทั้งมีความเร็ว บวกกับประสิทธิภาพสูง ขนาดที่ว่าพุ่งทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธใดๆก็ตาม ให้กลายเป็นฝุ่นละออง อย่างง่ายดาย
ส่วนโดรนใต้น้ำพลังงานนิวเคลียร์ ก็ยังเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงมาก มีความเร็วเหนือกว่าเรือรบใดๆก็ตามบนโลก มากกว่า 10 เท่า อีกทั้งยังทำให้เรือของศัตรู ไม่อาจสกัดจับได้ ความพิเศษอีกอย่างคือ สามารถโจมตีได้แบบข้ามทวีป ข้ามภพข้ามชาติ ช่วยบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งใช้ในการโจมตีเรือขนาดใหญ่ รวมทั้งถล่มกองบัญชาการชายฝั่งได้อย่างสบายๆ
ในอดีตจรวดนำวิถีแม้จะมีอานุภาพร้ายแรงขนาดไหน แต่ก็มีระบบป้องกันขีปนาวุธสร้างมาเพื่อดักจับ และทำลายก่อนที่จะถึงเป้า ทำให้ไม่อาจบรรลุความตั้งใจในการยิงได้ แต่จรวดนำวิถีของรัสเซียในครั้งนี้มีความน่ากลัวตรงที่ ทำให้ระบบป้องกันขีปนาวุธกลายเป็นของเล่น พัฒนาทางเทคโนโลยีช่วยให้ความน่ากลัวทางการทหารเป็นเรื่องเหลือเชื่อกว่าเคยเป็นมา