กระทรวงกลาโหมของประเทศไทย ได้ทำการพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด คาดว่าใช้จริงในปี 63 เพื่อแทนการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ โดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ได้เผยหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดซึ่งกำลังพัฒนาขึ้น พร้อมนำมาทดสอบใช้งานเบื้องต้น เป็นการสร้างความก้าวหน้า ต่อยอดนวัตกรรมรวมทั้งต่อยอดการผลิต เพื่อส่งออกในเชิงอุตสาหกรรม โดยได้มีการต่อยอดความคิดแผนโครงการวิจัยนี้ จากปี 2559 มีการบูรณาการงานทางด้านวิจัย รวมทั้งพัฒนารูปแบบหุ่นยนต์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์กลายมาเป็นหุ่นยนต์ต้นแบบซึ่งนำมาใช้เก็บกู้วัตถุระเบิดได้จริง ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยทำการสั่งซื้อ หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดมาจากต่างประเทศโดยตลอด คราวนี้เมื่อเกิดการชำรุดหรือถึงช่วงบำรุงรักษา ก็ส่งผลให้เสียค่าบำรุงรักษาเป็นจำนวนมาก เพราะต้องมีการจัดซื้ออะไหล่ รวมทั้งรอช่างจากต่างประเทศ จึงเกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานตามมา ทั้งนี้ทาง สทป.คิดว่า ประเทศไทยเองก็มีศักยภาพ ในด้านการทำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มากพอ อันเห็นได้จากผลงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ในยุคปัจจุบันนี้ หุ่นยนต์เป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ซึ่งเข้ามามีบทบาททางด้านความมั่นคง การนำหุ่นยนต์เข้ามาปฏิบัติทำภารกิจเสี่ยงภัย และมีความอันตรายเป็นอย่างสูง อย่างการเก็บกู้และการทำลายวัตถุระเบิด ช่วยทำให้ลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ เป็นเสมือนตัวช่วยซึ่งนำการใช้งานรูปแบบใหม่เข้ามาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ในต่างประเทศ บริษัท Boston dynamics บริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์ของอเมริกัน ก็ได้แสดงให้เห็นถึงคลิป VDO การตีลังกากลับหลัง ของ Atlas หุ่นยนต์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์รุ่นล่าสุด โดยทางบริษัทต้องการพัฒนาศักยภาพของมัน เพื่อใช้ในภารกิจการค้นหาและกู้ภัย Atlas เป็นหุ่นยนต์ Humanoid ที่มีความสูง 1.5 เมตร และมีน้ำหนัก 75 กก. ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งในช่วงลำตัว ,แขน , ขา โดยใช้ระบบควบคุมซึ่งทำงานอย่างสอดคล้องกัน โดยช่วยให้มันสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มศักยภาพในพื้นที่ขนาดจำกัด รวมทั้งยังสามารถรักษาสมดุลของตัวเองได้ หากเกิดกรณีล้มกระแทก Boston dynamic ได้เผยแพร่ VDO ชุดนี้ทาง Youtube ซึ่งเผยให้เห็นการทำงานของ Atlas มันสามารถกระโดดขึ้น-ลงกล่อง , กระโดดหมุน 180 องศา รวมทั้งตีลังกากลับหลัง เป็นการแสดงให้ประจักษ์ถึงศักยภาพการเคลื่อนที่ของลำตัว ซึ่งมีความล้ำหน้าเมื่อนำมาเทียบกับหุ่นยนต์ชนิดอื่นในปัจจุบัน โดยทางบริษัทมีความตั้งใจจะนำ Atlas ไปใช้งานในภารกิจค้นหาและกู้ภัยอันเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมนุษย์

การเข้ามาของเทคโนโลยี ไม่ได้เพียงช่วยให้ชีวิตมนุษย์มีความสะดวกสบาย มีความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาชีวิตอันแสนมีค่าได้อีกด้วย