‘เรือดำน้ำ’ ที่ใช้ทางการทหารในปัจจุบันนี้ มีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่…
- เรือดำน้ำพลังงานดีเซล
- เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์
โดยเรือดำน้ำทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างก็มีจุดเด่นรวมทั้งจุดด้อยซึ่งมีความแตกต่างกัน หากแต่สำหรับวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักแบบเจาะลึกในเรื่องของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์กัน
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ อีกหนึ่งเทคโนโลยีทางการทหาร
สำหรับพลังงานของเรือประเภทนี้ ได้รับพลังงานหลักมาจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งได้รับการปรับแต่งพร้อมพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง โดยมีขนาดพอซึ่งสามารถบรรจุลงในเรือดำน้ำได้ ซึ่งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะทำงานอย่างรุนแรงเพื่อสร้างความร้อน ไม่ว่าจะอยู่บนน้ำหรือใต้น้ำก็ตาม หากแต่อย่างไรความร้อนที่ได้มากจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ก็ได้มีการนำไปต้มให้เดือดจนกระทั่งกลายเป็นไอน้ำซึ่งมีความดันในระดับสูง หลังจากนั้นจึงนำไอน้ำอันมหาศาลนี้ไปผลักแกนใบพัดเรือให้หมุน เพื่อกระตุ้นการขับเคลื่อนเรือนอกจากนี้อีกทางหนึ่งก็คือ แกนใบพัดเรือมีการเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หลังจากนั้นจึงนำพลังงานมากักเก็บไว้ภายในแบตเตอรี่ เพื่อนำพลังงานไปเลี้ยงอุปกรณ์ในเรือให้ทำงานได้หน้าที่ของตัวเอง
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำงานในเรือดำขณะอยู่ใต้น้ำ ได้เป็นอย่างดี
จากความพิเศษของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่สามารถทำงานใต้สภาวะใต้น้ำได้อย่างดีเยี่ยม จึงทำให้เรือดำน้ำอยู่ในระดับความลึกได้อย่างยาวนานนับเดือน ! โดยที่ไม่ต้องขึ้นสู่ผิวน้ำเลยก็ได้ นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยในขั้นสูง ภายในเรือก็ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการสร้างออกซิเจนจากน้ำทะเล อีกทั้งยังมีพื้นที่ในการเก็บเสบียงอาหาร และน้ำดื่ม จึงทำให้ลูกเรือใช้ชีวิตได้อย่างยาวนานภายใต้ทะเลลึก เต็มที่ 90 วัน ก่อนจะต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อเติมเสบียง เป็นต้น
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ไม่หวั่นเกรง ระบบต่อต้านเรือดำน้ำ
เนื่องจากความพิเศษอีกอย่าง คือ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ สามารถดำน้ำลึกลงไปในระดับความลึกได้ถึง 600 เมตรเลยทีเดียว ! นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถึง 56-65 กม./ชม. เมื่ออยู่ในน้ำ และจากจุดนี้นี่เองที่กลายมาเป็นความได้เปรียบซึ่งอยู่เหนือเรือดำน้ำดีเซล จัดเป็นเรือดำน้ำที่มีพละกำลังมหาศาลเลยทีเดียว มีเพียง 6 ประเทศที่ครอบครองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ !
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่…
เรือดำน้ำพิฆาต ได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าแห่งท้องทะเล เรือประเภทนี้เกิดมา เพื่อ โจมตีเรือรวมทั้งเรือดำน้ำของข้าศึก นอกจากนี้ยังยิงจรวดเพื่อโจมตีเป้าหมายบนพื้นดินได้อีกด้วย โดยมักจะกบดานอยู่ในระดับความลึก จนกระทั่งแทบไม่เคยมีใครเคยเห็นเลย และถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจริงๆจนถึงขนาดทำให้ต้องยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา แสดงให้รู้เลยว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 เริ่มขึ้นแล้ว !
บรรพบุรุษของเรือดำน้ำ ก็คือ เรือดำน้ำซึ่งมีชื่อว่า ‘Turtle’ ปรากฏโฉมครั้งแรกในปี พ.ศ. 2318 มีระบบที่ต้องให้กำลังขับเคลื่อนด้วยมือ โดยได้รับการสร้างจากนักประดิษฐ์ผู้ปราดเปรื่องชาวอเมริกัน นาม ‘David Bushnell’ ในเรือดำน้ำรุ่นแรกนี้ สามารถบรรจุผู้โดยสารได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ค่อยผลักดันเรือไปข้างหน้าเรื่อยๆ หากแต่ปัจจุบันนี้เรือดำน้ำได้รับการพัฒนามาอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายประเภท มนุษย์สร้างเรือดำน้ำขนาดเล็ก หากแต่สามารถดำน้ำลงไปในระดับที่ลึกมาก เพื่อทำงานในภารกิจบางอย่าง เช่น ค้นหาไคจู สัตว์ใต้น้ำโบราณ , ลงไปสำรวจซากเรือเก่า , สู้รบ , หาร่องรอยของแผ่นดินไหว เป็นต้น ทำให้มนุษย์ได้เปิดประสบการณ์ที่ไม่เคยได้พบมาก่อน