หากจะนึกถึงอาวุธทางการทหารที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ชื่อของรถถังจะต้องโผล่เข้ามาอยู่ในความคิดของทุกๆ คนอย่างแน่นอน รถถังคืออาวุธทางทหารที่อาจเรียกได้ว่ามีความแข็งแกร่งและรุนแรงที่สุดด้วยการโจมตีทางบกเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เวลามีสงครามเกิดขึ้นทหารมักจะนำรถถังออกมาปฏิบัติการ มาประจำการตามจุดต่างๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยหรือไม่ก็เพื่อต่อสู้กับศัตรู เมื่อพูดถึงรถถังที่เห็นๆ กันอยู่นี้จริงแล้วรถถังแต่ละคันก็จะมีชื่อรุ่นของตนเองอยู่โดยแต่ละรุ่นก็จะมีลักษณะบางประการแตกต่างกันออกไป สำหรับหนึ่งในรถถังที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกก็ต้องยกให้กับ เอ็ม1 เอบรามส์ สุดยอดรถถังแห่งยุค

เอ็ม1 เอบรามส์ สุดยอดรถถังติดอันดับที่ดีที่สุดของโลก

เอ็ม1 เอบรามส์ เป็นรถถังหลักรุ่นที่สามของสหรัฐฯ จริงแล้วชื่อของรถถังคันนี้มาจากนายพลเครกตัน เอบราม์ เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ตอนสงครามเวียดนามในช่วงปี พ.ศ. 2511 – 2515 เอ็ม1 เอบรามส์ จัดว่าเป็นรถถังชั้นดีของโลกอย่างมากมีอาวุธที่รุนแรง มีเกราะขนาดใหญ่ แข็งแกร่ง ทนทาน หนัก แต่ตัวรถถังกลับมีความคล่องตัวสูง ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำสงครามประเภทยานเกราะยุคใหม่ จุดเด่นของ เอ็ม1 เอบรามส์ ก็คือเครื่องยนต์เทอร์โบอันทรงประสิทธิภาพ มีการใช้เกราะผสม มีการใช้ระบบเก็บกระสุนแยกต่างหากจากตัวห้องของลูกเรือ จัดว่าเป็นรถถังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ประจำการอยู่ในปัจจุบันนี้มีน้ำหนักตัวรถถึงเกือบ 62 ตัน สำหรับ เอ็ม1 เอบรามส์ ได้เริ่มต้นเข้าประจำการยังกองทัพสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นรุ่นที่เข้ามาแทนที่รถถังรุ่นเดิมอย่าง เอ็ม60 แพทตัน ถึงกระนั้นตัวรถถังเองก็ยังคงทำงานร่วมกับ เอ็ม60 เอ รุ่นที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานตลอด 10 ปี ที่เข้ามาประจำการก่อนหน้าเล็กน้อยในปี พ.ศ. 2521 รุ่นหลักๆ ของตัวรถถัง เอ็ม1 จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ประกอบไปด้วย เอ็ม1, เอ็ม1เอ1 และเอ็ม1เอ2 แต่ละรุ่นจะมีการพัฒนาด้านของอาวุธ ระบบไฟฟ้า และการป้องกัน ซึ่งการพัฒนาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ยังส่งผลให้สามารถใช้งานรถถังได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นด้วย

ปัจจุบันนี้กำลังมีการพัฒนารถถังรุ่นเอ็ม1เอ3 กันอยู่ถือว่าเป็นรถถังประจัญบานของกองทัพบกสหรัฐฯ และนาวิกโยธินสหรัฐฯ นอกจากนี้กองทัพบกของอียิปต์, คูเวต, ออสเตรเลีย, อิรัก และซาอุดิอาระเบีย ก็ใช้งานด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตัว เอ็ม1 เอบรามส์ นี้จะประจำการอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2593 ซึ่งนับรวมเวลาในการประจำการทั้งหมดก็ประมาณ 70 ปี นั่นเอง